ปัญหาปากดำ ทำตุ๊บไปหลายเรื่อง!

          ชีวิตชะนีสายสวยแบบเราๆ หน้าต้องสวย ผมต้องเป๊ะ และหุ่นก็ต้องปั๊ว เอาเป็นว่าทั้งหมดของร่างกายชะนีต้องดูดีที่สุด แต่วันนี้เราไม่ได้จะมาบอกการทำสวยทั้งหมด ขอโฟกัสแค่หนึ่งอย่างเท่านั้น! ซึ่งนั่นก็คือเรื่องริมฝีปาก ปัญหาริมฝีปากดำ ริมฝีปากคล้ำ และริมฝีปากซีดจาง ล้วนเป็นปัญหาชวนอารมณ์เสีย วันไหนลืมทาลิปคือตุ๊บมาก แต่ช่วงนี้ใดๆ คือใส่แมสก็ยังปิดบังความบ้งของริมฝีปากได้อยู่ แต่เชื่อว่าไม่มีสาวๆ คนไหนอยากมีริมฝีปากดำคล้ำไปตลอดหรอก ดังนั้นเรื่องริมฝีปากก็คือสำคัญค่ะ ต้องอมชมพูใสๆ เหมือนเป็นชะนีกินน้ำเปล่าวันละ 10 แก้ว ซึ่งความจริงคือตอนนี้ริมฝีปากดำคล้ำ ไม่สดใส ก็เพราะแบบนี้เราเลยต้องมาหาคำตอบว่าปากดำทำไงดี ?
 

          ซึ่งก่อนที่จะพาไปรู้วิธีแก้ปัญหาริมฝีปากดำคล้ำ เราขอบอกสาเหตุการเกิดริมฝีปากดำคล้ำกันก่อน ว่าความจริงแล้วริมฝีปากดำเกิดจากอะไรได้บ้าง บางทีเราอาจจะต้องลดหรือเลี่ยงพฤติกรรมบางอย่างไหม เพื่อไม่ให้ปัญหาริมฝีปากดำคล้ำกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้งหลังจากแก้ไขให้ดีขึ้นแล้ว

ปากดำเกิดจากอะไร ?

• กรรมพันธุ์ ในส่วนของกรรมพันธุ์ที่ว่านี่คือ คนเราจะมีสีของริมฝีปากที่แตกต่างกันอยู่แล้ว โดยถ่ายทอดจากพ่อแม่หรือบรรพบุรุษ ซึ่งอาจจะรวมถึงตามลักษณะของสีผิวด้วย อย่างเช่น คนผิวคล้ำก็มักจะมีริมฝีปากที่สีเข้มกว่าคนผิวขาว

• การแพ้สารเคมีในลิปสติก ในสาเหตุนี้เชื่อว่าต้องมีเหล่าสาวๆ เป็นกันเยอะพอสมควร เพราะปัจจุบันมีลิปสติกอยู่ตามท้องตลาดหลากหลายแบรนด์มาก ซึ่งในกรณีที่แพ้สารเคมีก็ไม่จำเป็นต้องเป็นลิปสติกราคาถูก อาจจะแพ้สารเคมีจากลิปสติกราคาแพงก็ได้ โดยส่วนใหญ่จะแพ้จากน้ำหอม สี หรือสารกันเสียที่อยู่ในลิปสติก

• แสงแดดยูวี เป็นหนึ่งสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วยอากาศของประเทศไทย ถ้าได้ออกนอกอาคารช่วงกลางวันเมื่อไหร่ก็ต้องเจอแสงแดดทันที สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ริมฝีปากดำคล้ำก็อาจจะมาจากแสงแดดที่มียูวี ที่จริงแล้วริมฝีปากก็ไม่ต่างจากผิวหนังเลย

• พฤติกรรมส่วนตัว อาทิเช่น การเลียริมฝีปากบ่อยๆ การสูบบุหรี่

• อายุ อีกหนึ่งสาเหตุที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย ด้วยอายุที่มากขึ้นทุกวันก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ริมฝีปากมีโอกาสดำคล้ำขึ้นเรื่อยๆ

• การรับประทานอาหารบางชนิด เช่น ขิง ขึ้นฉ่าย ผักชี กระเทียม ส้ม สัปปะรด มะขาม เป็นต้น เพราะอาหารเหล่านี้มีสารที่ชื่อ โซราเลน (soralen) ที่โอกาสตกค้างตามริมฝีปากหลังรับประทานได้ ถ้าสารเหล่านี้สัมผัสกับสารอัลตราไวโอเลตในแสงแดดก็จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่กระตุ้นทำให้ริมฝีปากสร้างเซลล์เม็ดสีออกมามากจนทำให้ริมฝีปากดำคล้ำ

          โดยสาเหตุทั้งหมดที่ได้กล่าวมาเราได้เรียบเรียงจากสาเหตุที่คิดว่าสาวๆ น่าจะพบบ่อยที่สุดไปยังสาเหตุที่พบน้อยที่สุด เมื่อได้ทราบสาเหตุของการเกิดริมฝีปากดำคล้ำแล้ว เราต้องลองมาดูกันว่าสาเหตุไหนที่จะสามารถเลี่ยงและทำให้ริมฝีปากหายดำคล้ำได้เอง หรือจำเป็นต้องหาวิธีแก้ไขเป็นพิเศษ

ริมฝีปากดำทำไงดี กับ 6 วิธีแก้ปัญหาปากดำ

1. เลี่ยงพฤติกรรมบางอย่างที่ทำให้ริมฝีปากดำคล้ำ เช่น ไม่เลียริมฝีปาก ลดการสูบบุหรี่ หรือเมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้วควรล้างหรือเช็ดริมฝีปากทุกครั้ง โดยส่วนใหญ่ปัญหาเหล่านี้จะเกิดจากพฤติกรรมส่วนตัวทั้งหมด จึงเป็นสิ่งที่เราสามารถเลี่ยงได้เอง เมื่อเลี่ยงหรือลดแล้วก็อาจจะช่วยให้ริมฝีปากไม่ดำคล้ำ มีสีที่สดใสดีขึ้นกว่าเดิมได้

2. สครับริมฝีปาก การสครับริมฝีปากจะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออก แต่ถ้าคุณมีริมฝีปากที่แห้งมากก็ไม่แนะนำให้สครับริมฝีปาก เพราะอาจจะทำให้ริมฝีปากแห้งกร้านแตกเป็นขุยได้ โดยการสครับริมฝีปากจะเลือกใช้สครับสำเร็จรูปที่มีขายเลยก็ได้ แต่เลือกสูตรที่ไม่ทำให้เกิดการแพ้ หรือถ้าไม่ซื้อแบบสำเร็จรูปก็ใช้เป็นน้ำผึ้ง น้ำตาลและวาสลีนมาผสมกันในปริมาณที่เท่ากัน หลังจากนั้นก็นำมานวดวนๆ ที่ริมฝีปาก ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที และใช้สำลีชุบน้ำเช็ดออก วิธีนี้จะช่วยให้ริมฝีปากดูสดใสขึ้นมาได้ แต่ไม่ถึงขั้นทำให้ริมปากเป็นสีชมพูเลย


3. ใช้ลิปบาล์ม ลิปแคร์ เป็นประจำ เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าริมฝีปากแห้งแนะนำให้ทาลิปบาล์มหรือลิปแคร์ เลี่ยงการเลียริมฝีปาก ในส่วนของลิปบาล์ม ลิปแคร์จะมีส่วนผสมที่ช่วยให้ริมฝีปากมีความชุ่มชื้น และช่วยให้ริมฝีปากมีสุขภาพที่ดีขึ้น ถ้าใช้เป็นประจำอยู่ทุกวันก็อาจจะช่วยให้ริมฝีปากอมชมพูขึ้น แต่อาจจะต้องใช้เวลานานหน่อย


4. เลเซอร์ริมฝีปาก หรือเลเซอร์ปากชมพู เป็นการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ยิงแสงเลเซอร์ที่ริมฝีปาก แสงเลเซอร์จะลงไปจับเม็ดสี เพื่อทำให้เม็ดสีที่มีความเข้มแตกออก ช่วยปรับให้ริมฝีปากสว่างขึ้น แต่การทำเลเซอร์ปากจำเป็นต้องทำมากกว่า 1 ครั้ง โดยประมาณ 5 ครั้งขึ้นไปถึงจะทำให้ริมฝีปากอมชมพูขึ้น แต่การทำเลเซอร์มีโอกาสที่จะทำให้ริมฝีปากกลับมาดำได้อีกขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาของแต่ละบุคคลด้วย


5. สักปาก เป็นการลงสีที่ริมฝีปากแต่เป็นการลงสีที่ลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) ซึ่งเป็นจุดที่มีเส้นเลือดและเส้นประสาทรวมอยู่เยอะ โดยจะใช้เข็มจุ่มสีต้องการ และสักเพื่อกลบหรือปกปิดริมฝีปากที่ดำคล้ำ ซึ่งการสักปากอาจจะช่วยให้ริมฝีปากดูสีระเรื่อขึ้นประมาณ 30% แต่อาจจะต้องทนกับอาการบวมช้ำหลังทำเล็กน้อย กับอาจจะมีความเจ็บปวดขณะทำบ้างในบางคน

6. ฝังสีปาก เป็นการลงสีที่ริมฝีปากแค่บริเวณผิวหนังชั้นกำพร้า (Epidermis) โดยการฝังสีปากนี้จะไม่ทำลายเนื้อเยื่อบริเวณริมฝีปาก จึงทำให้ไม่มีการอักเสบ ไม่บวมช้ำเท่ากับการสักปาก ซึ่งการฝังสีปากจะช่วยให้ริมฝีปากมีสีระเรื่อขึ้นประมาณ 50% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และที่สำคัญไม่ต้องกังวลกับอาการบวมช้ำ รวมถึงตอนทำไม่เจ็บเลย หรือเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

สักปาก

• สีริมฝีปากที่ได้จะมีความเข้มมาก ดูไม่ธรรมชาติ

• การสักปากเป็นการลงสีแบบถาวร ยากต่อการแก้ไข

• มีโอกาสเกิดการอักเสบ

• หลังทำ บวมช้ำได้

• มีโอกาสเลือดออก

• มีความเจ็บเพราะใช้เข็มสักที่อาจจะลงลึก

ฝังสีปาก

• ใช้เครื่องฝังสีที่เป็นระบบ Micropigmentation ไม่ใช่เครื่องสักทั่วไป

• ใช้สีเฉพาะที่อ่อนโยน ไม่ใช่สีทั่วไปที่ใช้สักตามร่างกาย

• ไม่ทำลายเนื้อเยื่อบริเวณริมฝีปาก

• ไม่มีการอักเสบ

• ไม่บวมช้ำ

• ไม่มีเลือดออก

• ไม่เจ็บเลย หรืออาจเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

          ซึ่งทั้งหมดที่เราได้บอกทุกคนก็ล้วนแก้ปัญหาริมฝีปากดำคล้ำได้ทั้งหมด ก็จะมีตั้งแต่วิธีง่ายๆ ที่ทำเองได้ แต่อาจจะแก้ไขได้แบบไม่ร้อยเปอร์เซ็น แต่ว่าช่วยให้ริมฝีปากดูสุขภาพดีขึ้นแน่ๆ ส่วนบางข้อก็อาจจะต้องลองศึกษากันดีๆ ว่าที่ไหนที่ช่วยแก้ไขริมฝีปากดำคล้ำได้จริงๆ ขอกระซิบนิดนึงว่าที่ Claire ก็คือสุดปังเรื่องแก้ปัญหาริมฝีปากดำคล้ำด้วยเทคนิคการฝังสีปากนะคะ  จะแปะคลิปรีวิวไห้ดูก่อนเพื่อจูงใจให้เหล่าสาวๆ อยากทำ แต่สามารถแอด Line : @ClairebySLC มาขอดูรีวิวงานฝังสีปากเพิ่มเติมได้นะคะ แอดไว้อาจจะได้รับโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะทางไลน์ก็ได้น้า